แถลงการณ์สนับสนุนให้มีการกลับมาเจรจาสันติภาพ

🔴แถลงการณ์สนับสนุนให้มีการกลับมาเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทย และ ขบวนการ Barisan Revolusi Nasional Melayu Patani

✅องค์กรภาคประชาสังคมขอส่งเสียงสนับสนุนสันติภาพ✅

พวกเราผู้ลงนามด้านล่างขอเน้นย้ำการสนับสนุนอย่างแน่วแน่เพื่อให้มีการกลับมาเจรจาสันติภาพอย่างเป็นทางการระหว่างรัฐบาลไทย (RTG) และขบวนการ Barisan Revolusi Nasional Melayu Patani (BRN) หลังจากที่มีการเจรจามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การลงนามที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2013 โดยมีความมุ่งหวังในแก้ไขความขัดแย้งด้วยอาวุธที่กินเวลานานกว่า 20 ปี ถือเป็นก้าวสำคัญและสำคัญยิ่งในเส้นทางสู่การสร้างสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืนในจังหวัดชายแดนใต้ ประเทศไทย และการดำเนินกระบวนการสันติภาพระหว่าง RTG และ BRN ถือเป็นโอกาสอันมีค่าสำหรับการสร้างชาติ การเยียวยา และการปรองดองที่จำเป็นสำหรับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งรวมไปถึงทั้งประเทศ

ถึงแม้ว่ารัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศได้แถลงในนามรัฐบาลไทยเมื่อวันที่ 28 September 2024 ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกาว่าประเทศไทยสนับสนุนสหประชาชาติให้สามารถรักษาและเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศได้อย่างแท้จริงโดยประเทศสมาชิกจะต้องรักษาพันธกรณีในการปลดอาวุธและการไม่แพร่ขยายอาวุธเพื่อสร้างความไว้วางใจขึ้นมาใหม่และสร้างหลักประกันว่าโลกจะมีความปลอดภัยและมั่นคง นอกจากนี้ประเทศไทยแสดงเจตจำนงอย่างมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับอาเชียนและชุมชนระหว่างประเทศในการแก้ปัญหาทางการเมืองอย่างสันติในเมียนมาร์เพื่ออำนวยความสะดวกในการเจรจาระหว่างฝ่ายต่างๆ

แต่เมื่อเรากลับมาที่ประเทศไทยกับปัญหาความรุนแรงและความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนใต้ เราพบว่ารัฐบาลยังไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาทั้งระดับนโยบายที่ระบุเพียงประโยคที่ว่า “ รวมถึงการสร้างสันติภาพและสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน” และในระดับปฏิบัติการโดยรัฐบาลยังไม่มีการแต่งตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยฝ่ายไทย ทำให้การเจรจาสันติภาพหยุดชะงักลงตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ 2567

ทั้งนี้เราขอชื่นชมสมาชิกรัฐบาล สื่อมวลชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญอื่นๆ ที่ยังคงสนับสนุนการเจรจาสันติภาพอีกครั้ง โดยท้าทายคำบอกเล่าที่แพร่หลายว่าความขัดแย้งทางอาวุธสามารถแก้ไขได้ด้วยกำลังทหารเท่านั้น เราได้รับกำลังใจจากความเป็นผู้นำของคุณในช่วงเวลาที่พื้นที่สำหรับการอภิปรายอย่างวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความขัดแย้งนี้เต็มไปด้วยกลวิธีที่สร้างความแตกแยก และบรรยากาศแห่งความไม่ไว้วางใจ ความกลัว และความไม่แน่นอนมีอยู่มากมาย เราตระหนักดีว่าองค์กรภาคประชาสังคมไม่สามารถทำงานเพื่อสันติภาพได้เพียงลำพัง การแก้ไขสาเหตุหลักของความขัดแย้งต้องอาศัยความร่วมมือและความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่ายในทุกระดับของสังคมไทย ราต้องการพันธมิตรเช่นคุณในการพยายามสร้างชุมชนจังหวัดชายแดนใต้ที่สงบสุขซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานความยุติธรรมทางสังคม

ในฐานะผู้สร้างสันติภาพและผู้สนับสนุนสันติภาพที่ทำงานและอยู่เคียงข้างชุมชนในการต่อสู้เพื่อสันติภาพและความยุติธรรม เราได้เห็นผลกระทบอันเลวร้ายของสงครามและความรุนแรง เราเชื่อว่าการกลับมาเจรจาสันติภาพระหว่าง RTG และ BRN อีกครั้งจะนำเสนอทางเลือกอื่นที่เราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตร่วมกันของไทยที่ยุติธรรม มั่งคั่ง และสงบสุข ถือเป็นโอกาสทองที่ทั้งสองฝ่ายจะได้หารือ จัดตั้ง และตกลงกันในการปฏิรูปทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองที่เกี่ยวข้องที่จำเป็นในการนำมาซึ่งและรักษาสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืนในประเทศ อย่างไรก็ตาม เราเน้นย้ำถึงความสำคัญของกระบวนการสันติภาพที่ครอบคลุมและมีส่วนร่วม ซึ่งสิทธิและความต้องการของผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจะได้รับการพิจารณาและให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

📍เราจึงขอเรียกร้องต่อ RTG และ BRN ดังนี้

1.ขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายแสดงความเจตจำนงที่มุ่งมั่นในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนใต้ด้วยแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการจัดตั้งคณะพูดคุยและผลักดันการเจรจาสันติภาพให้มีความก้าวหน้า

2.ขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่าย ยุติการใช้ความรุนแรงที่ละเมิดต่อหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศและหลักสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการกระทำที่ส่งผลต่อพลเรือนและวัตถุพลเรือน

3.ขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายอดทนอดกลั้นและมุ่งมั่นในการสร้างสันติภาพโดยกระบวนการเจรจาต่อไป

4.และเราเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนสันติภาพและประชาชนสนับสนุนทั้งสองฝ่ายในความพยายามนี้ ทิ้งความแตกต่างทางการเมือง และให้การแสวงหาสันติภาพที่ยุติธรรมเป็นลำดับความสำคัญและ เดินหน้าต่อไปและสร้างผลสำเร็จจากการเจรจา