Human Right and Peace Training

จบไปแล้วสำหรับการอบรมในโครงการกลไกการติดตามสถานการณ์สิทธิมนุษยชนและสันติภาพในพื้นที่ชายแดนใต้/ปาตานี

✅คลาสแรก ทุกคนรู้จักหลักสิทธิมนุษยชน ของสหประชาชาติ ที่เริ่มด้วยปฏิญญาสากลว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน และอนุสัญญาต่างๆที่ประเทศไทยได้ไปลงนาม และนำมาใช้ในประเทศ นอกจากสิทธิต่างๆมีอยู่กับตัวของทุกคน ประชาชนต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองจากรัฐ ที่มีหน้าที่ปกป้อง เติมเต็ม และเคารพในด้านสิทธิมนุษยชนของคนทุกคน กระบวนการนี้นำโดยวิทยากรจาก Nonviolent Peaceforce และถกกันในเรื่องของ Abuse และ Violation ในภาษาไทยแปลว่าการละเมิด ซึ่งเป็นที่เข้าใจตรงกันในคลาสเรียนว่าสองคำนี้ ใช้กันอย่างไร

✅คลาสต่อมา เมื่อเรารู้จักปกป้องตนเอง รู้สิทธิของตัวเอง แล้ว ทุกคนสามารถปกป้องชุมชนของได้ด้วยชุมชนเอง เราจึงมีการเรียนรู้ร่วมกันในเรื่องของการปกป้องพลเรือนโดยไม่ใช้อาวุธ และแต่ละชุมชนได้เรียนรู้เรื่องการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า และการตอบสนองอย่างรวดเร็ว รวมถึงการนำไปใช้จริง โดยเรามีตัวอย่างการใช้ในมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์ ที่นำโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจาก Nonviolent Peaceforce

✅คลาสสุดท้าย กลไกสำคัญในการทำงานในพื้นที่ขัดแย้งที่มีมายาวนาน เครื่องมือการติดตามสถานการณ์นับว่าสำคัญต่อการสร้างความปลอดภัยต่อตนเอง และต่อชุมชน เพราะสถานการณ์มีแนวโน้มสูงและลดลงอย่างมีนัยยะ ทุกคนสามารถวิเคราะห์สถานการ์จริงเกิดขึ้นได้ อย่างเช่น วันที่เราอบรม มีสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้/ปาตานี กรณีเจ้าหน้าที่ยึดรูปอูลามะห์และธงปาเลสไตน์ในขบวนพาเหรดของชาวมลายูมุสลิมในจังหวัดนราธิวาส ทุกคนได้วิเคราะห์และถกเถียงกัน รวมถึงนำเสนอข้อเสนอแนะ หากเกิดกรณีลักษณะนี้ เราจะรับมืออย่างไร แล้วชุมชนต้องมีเครื่องมือสร้างความปลอดภัยแก่เยาวชนและชุมชนอย่างไร

ทุกคนได้เครื่องมือในการป้องกันตนเองและปกป้องชุมชนโดยแนวทางสันติวิธี รวมถึงการทำให้ชุมชนปลอดภัย ผู้เข้าร่วมทุกคนเชื่อว่า เราสามารถทำได้ และเป็นความร่วมมือของคนในชุมชนกันเองในการที่จะปกป้องชุมชน ในท่ามกลางที่มีเหตุการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดน/ปาตานี

ต่อไปเราจะมีการติดตามสถานการณ์สิทธิมนุษยชนโดยชุมชน ผ่านกลไกของการทำงานร่วมกันระหว่างกลุ่มด้วยใจและชุมชน